เริ่มมีการบันทึกตั้งแต่สมัยพุทธกาล มีชายผู้หนึ่งสนใจวิชาแพทย์
ชื่อ ชีวกโกมารภัจจ์จึงได้ไปศึกษาวิชาแพทย์ที่สำนักทิศาปาโมกข์ในเมืองตักศิลา
จนจบได้อย่างรวดเร็วและสามารถผู้ป่วยครั้งเดียวหาย
ครั้งหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงพระประชวรเป็นโรคพระคันทละ(ริดสีดวง)
ทรงโปรดให้หมอชีวกมารภัจจ์ถวายการรักษา ซึ่งรักษาครั้งเดียวหาย
พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงโปรดให้เป็นแพทย์หลวง
ประวัติการแพทย์แผนไทย
ประมาณปี พ.ศ. ๑๗๒๕ - ๑๗๒๙ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
ทรงสร้างสถานพยาบาล เรียกว่า อโรคยาศาลา มีพิธีกรรมบวงสรวง
พระไภสัชยคุรุไวทูรย์ ด้วยยาและอาหารก่อนแจกจ่ายให้ผู้ป่วย และในสมัย
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงสร้างสวนสมุนไพรขนาดใหญ่บนเขาหลวงหรือ
เขาสรรพยา เพื่อให้ประชาชนได้เก็บสมุนไพรไปใช้รักษาโรคยามเจ็บป่วย
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีระบบการจัดหายาที่ชัดเจน
สำหรับประชาชนมีแหล่งจำหน่ายยาสมุนไพรทั้งในและนอกกำแพงเมือง
มีการรวบรวมตำรับยาต่างๆขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแพทย์แผนไทย
เรียกว่า ตำราพระโอสถพระนารายณ์
สมัยต้นรัตนโกสินทร์
สมัยรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงให้รวบรวมและจารึกตำรายาและฤาษีดัดตน ตำราการนวดไทยไว้ตาม
ศาลาราย มีการจัดตั้งกรมหมอ ผู้รับราชการเรียกว่า หมอหลวง ส่วนหมอที่
ประชาชนทั่วไปเรียกว่า หมอราษฎร หรือหมอเชลยศักดิ์
สมัยรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านาภาลัย
- ในปี พ.ศ. ๒๓๕๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรากฎหมายชื่อว่า
“กฎหมายพนักงานพระโอสถถวาย”
สมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดตั้ง โรงเรียนแพทย์แผนโบราณแห่งแรก คือ
" วิทยาลัยการแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ "
- มีการบันทึกตำรับยาต่างๆ บนหินอ่อนประดับไว้ตามผนังโบสถ์ ศาลา
บนผนังเสาและกำแพงวิหารคดรอบเจดีย์สี่องค์ ณ พระเชตุพนวิมลมังคลารามและศาลาต่างๆ
- จัดหาสมุนไพรที่ใช้ปรุงยา และหายากมาปลูกในวัดโพธิ์ เป็นจำนวนมาก
- ทรงให้ปั้นรูปฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ
สมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจุลเกล้าเจ้าอยู่หัว
- นำการแพทย์แผนตะวันตกมาใช้
สมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ปี พ.ศ. ๒๔๓๑ จัดตั้งศิริราชพยาบาล มีการเรียนการสอน การรักษา
ทั้งการแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตกร่วมกัน
- มีการพิมพ์ตำราแพทย์สำหรับใช้ในโรงเรียนแพทย์ เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. ๒๔๓๘
ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑ - ๔ เป็นตำราแห่งชาติฉบับแรก
- ต่อมาพระยาพิษณุประสาทเวช เห็นว่าตำรานี้ยากแก่ผู้ศึกษา
จึงพิมพ์ตำราขึ้นใหม่ ได้แก่ ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับหลวง ๒ เล่ม
และตำราแพทย์ศาสตร์สังเขป(เวชศึกษา)
สมัยรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ปี พ.ศ. ๒๔๕๖ สั่งยกเลิกวิชาการแพทย์แผนไทย
- ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ประกาศให้ใช้พระราชบัญญัติการแพทย์ควบคุมการประกอบ
โรคศิลปะ
สมัยรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ตรากฎหมายเสนาบดี การประกอบโรคศิลปะออกเป็นแผนปัจจุบันและแผนโบราณ
ประเภทแผนปัจจุบัน คือ
ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยความรู้จากตำราในหลักวิทยาศาสตร์
ประเภทแผนโบราณ คือ
ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยความรู้จากตำราหรือการเรียน
สืบต่อกันมาไม่ได้ศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์
สมัยรัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
มีการตั้งกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับ
สมุนไพรว่าจะจัดให้มีการตรวจค้นหาความรู้
ในเรื่องสรรพคุณยาสมุนไพรและยาอื่นๆ
ในประเทศ เพื่อนำมาดัดแปลงเป็นยาแผนตะวันตก
และขยายการทำยาให้มากชนิดและ มีปริมาณมากขึ้น
สมัยรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระภูมิพลอดุลเดชมหาราช
- ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จัดตั้งสมาคมของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณที่วัดโพธิ์
- ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ก่อตั้งโรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย
ปัจจุบันเพิ่ม
การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณประยุกต์(แพทย์แผนไทยประยุกต์)
คือ การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณซึ่งอาศัยโดยหลักวิทยาศาสตร์
แต่ไม่ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อการวิจัย
และรักษานอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและเป็นการศึกษา
ของสถานศึกษาที่คณะกรรมการกองการประกอบโรคศิลปะรับรอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น