คลิปมาฝากกันดูนะครับ
การผลักกระดูกหัวไหล่หลุด
Thai Traditional Medicine
การแพทย์ไทย,การแพทย์แผนไทย,แพทย์แผนไทย
วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
จรรยาแพทย์
ว่าด้วยคุณธรรมอันเป็นเครื่องประดับของหมอ หรือ จริยธรรมที่หมอควรประพฤติปฏิบัติ อันประกอบด้วยคุณธรรมเหล่านี้
๑. มีความเมตตาจิตแก่คนไข้ทุกคนที่มารักษา
๒. ไม่โลภเห็นแก่ลาภจนเกินไป
๓. ไม่เป็นคนโอ้อวด
๔. ไม่ปิดบังความเขลาของตนเองไว้
๕. ไม่ปิดบังความดีของคนอื่น
๖. ไม่หวงกีดกันลาภของผู้อื่น
๗. ไม่ลุอำนาจแก่อคติทั้ง ๔ คือ
ฉันทาคติ โทสาคติ ภยาคติ โมหาคติ
๘. ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรมทั้ง ๘
๙. มีหิริโอตตัปปะ ความละอายต่อบาป
๑๐. ไม่เป็นคนเกียจคร้านและมักง่าย
๑๑. มีโยนิโสมนสิการ ตริตรองในใจโดยแยบคาย
๑๒. ไม่เป็นคนมีสันดานอันประกอบด้วยมัวเมา
ประวัติการแพทย์แผนไทย
เริ่มมีการบันทึกตั้งแต่สมัยพุทธกาล มีชายผู้หนึ่งสนใจวิชาแพทย์
ชื่อ ชีวกโกมารภัจจ์จึงได้ไปศึกษาวิชาแพทย์ที่สำนักทิศาปาโมกข์ในเมืองตักศิลา
จนจบได้อย่างรวดเร็วและสามารถผู้ป่วยครั้งเดียวหาย
ครั้งหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงพระประชวรเป็นโรคพระคันทละ(ริดสีดวง)
ทรงโปรดให้หมอชีวกมารภัจจ์ถวายการรักษา ซึ่งรักษาครั้งเดียวหาย
พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงโปรดให้เป็นแพทย์หลวง
ประวัติการแพทย์แผนไทย
ประมาณปี พ.ศ. ๑๗๒๕ - ๑๗๒๙ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
ทรงสร้างสถานพยาบาล เรียกว่า อโรคยาศาลา มีพิธีกรรมบวงสรวง
พระไภสัชยคุรุไวทูรย์ ด้วยยาและอาหารก่อนแจกจ่ายให้ผู้ป่วย และในสมัย
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงสร้างสวนสมุนไพรขนาดใหญ่บนเขาหลวงหรือ
เขาสรรพยา เพื่อให้ประชาชนได้เก็บสมุนไพรไปใช้รักษาโรคยามเจ็บป่วย
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีระบบการจัดหายาที่ชัดเจน
สำหรับประชาชนมีแหล่งจำหน่ายยาสมุนไพรทั้งในและนอกกำแพงเมือง
มีการรวบรวมตำรับยาต่างๆขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแพทย์แผนไทย
เรียกว่า ตำราพระโอสถพระนารายณ์
สมัยต้นรัตนโกสินทร์
สมัยรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงให้รวบรวมและจารึกตำรายาและฤาษีดัดตน ตำราการนวดไทยไว้ตาม
ศาลาราย มีการจัดตั้งกรมหมอ ผู้รับราชการเรียกว่า หมอหลวง ส่วนหมอที่
ประชาชนทั่วไปเรียกว่า หมอราษฎร หรือหมอเชลยศักดิ์
สมัยรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านาภาลัย
- ในปี พ.ศ. ๒๓๕๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรากฎหมายชื่อว่า
“กฎหมายพนักงานพระโอสถถวาย”
สมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดตั้ง โรงเรียนแพทย์แผนโบราณแห่งแรก คือ
" วิทยาลัยการแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ "
- มีการบันทึกตำรับยาต่างๆ บนหินอ่อนประดับไว้ตามผนังโบสถ์ ศาลา
บนผนังเสาและกำแพงวิหารคดรอบเจดีย์สี่องค์ ณ พระเชตุพนวิมลมังคลารามและศาลาต่างๆ
- จัดหาสมุนไพรที่ใช้ปรุงยา และหายากมาปลูกในวัดโพธิ์ เป็นจำนวนมาก
- ทรงให้ปั้นรูปฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ
สมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจุลเกล้าเจ้าอยู่หัว
- นำการแพทย์แผนตะวันตกมาใช้
สมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ปี พ.ศ. ๒๔๓๑ จัดตั้งศิริราชพยาบาล มีการเรียนการสอน การรักษา
ทั้งการแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตกร่วมกัน
- มีการพิมพ์ตำราแพทย์สำหรับใช้ในโรงเรียนแพทย์ เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. ๒๔๓๘
ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑ - ๔ เป็นตำราแห่งชาติฉบับแรก
- ต่อมาพระยาพิษณุประสาทเวช เห็นว่าตำรานี้ยากแก่ผู้ศึกษา
จึงพิมพ์ตำราขึ้นใหม่ ได้แก่ ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับหลวง ๒ เล่ม
และตำราแพทย์ศาสตร์สังเขป(เวชศึกษา)
สมัยรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ปี พ.ศ. ๒๔๕๖ สั่งยกเลิกวิชาการแพทย์แผนไทย
- ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ประกาศให้ใช้พระราชบัญญัติการแพทย์ควบคุมการประกอบ
โรคศิลปะ
สมัยรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- ตรากฎหมายเสนาบดี การประกอบโรคศิลปะออกเป็นแผนปัจจุบันและแผนโบราณ
ประเภทแผนปัจจุบัน คือ
ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยความรู้จากตำราในหลักวิทยาศาสตร์
ประเภทแผนโบราณ คือ
ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยความรู้จากตำราหรือการเรียน
สืบต่อกันมาไม่ได้ศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์
สมัยรัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
มีการตั้งกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับ
สมุนไพรว่าจะจัดให้มีการตรวจค้นหาความรู้
ในเรื่องสรรพคุณยาสมุนไพรและยาอื่นๆ
ในประเทศ เพื่อนำมาดัดแปลงเป็นยาแผนตะวันตก
และขยายการทำยาให้มากชนิดและ มีปริมาณมากขึ้น
สมัยรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระภูมิพลอดุลเดชมหาราช
- ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จัดตั้งสมาคมของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณที่วัดโพธิ์
- ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ก่อตั้งโรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย
ปัจจุบันเพิ่ม
การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณประยุกต์(แพทย์แผนไทยประยุกต์)
คือ การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณซึ่งอาศัยโดยหลักวิทยาศาสตร์
แต่ไม่ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อการวิจัย
และรักษานอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและเป็นการศึกษา
ของสถานศึกษาที่คณะกรรมการกองการประกอบโรคศิลปะรับรอง
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เกี่ยวกับเรา
นพดล หงษ์สุวรรณ
ที่อยู่ 205 หมู่ 1 ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร 47160
สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย คณะทรัพยากรธรรมชาติ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร
โทรศัพท์ : 0-8982-69481 E-Mail Address : bangrachan94@hotmail.com
ประสบการณ์การทำงาน
ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย
คณะทรัพยากรธรรมชาติ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร
รายวิชาที่รับผิดชอบ
1. เวชกรรมไทย 1
2. เวชกรรมไทย 2
3. พื้นฐานเภสัชกรรมไทย
4. เภสัชกรรมไทย 1
5. เภสัชกรรมไทย 2
6. พื้นฐานหัตถเวชกรรมไทย
7. หัตถเวชกรรมไทย 1
8. หัตถเวชกรรมไทย 2
9. กฎหมายทางการแพทย์และสาธารณสุข
ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ
- ประเภทเภสัชกรรมแผนไทย เลขที่ใบอนุญาต 20652
- ประเภทผดุงครรภ์แผนไทย เลขที่ใบอนุญาต 3717
- ประเภทเวชกรรมกรรมแผนไทย เลขที่ใบอนุญาต 16369
- ใบอนุญาตผู้ดำเนินการสปา เลขที่ใบอนุญาต สบส. 50100285
ประวัติการศึกษา
- ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ความงามและสุภาพ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต พ.ศ.2550
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย จ.ปทุมธานี
สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
เกียรตินิยมอันดับ 2 เกรดเฉลี่ย 3.61
- สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตปทุมธานี
สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เกรดเฉลี่ย 3.81
ประสบการณ์ระหว่างการศึกษา
ปี พ.ศ.2549 สถานีอนามัยตำบลบางขแยง จ.ปทุมธานีปี พ.ศ.2548 โรงพยาบาลวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ปี พ.ศ.2547 สถานีอนามัยตำบลบ้านกลาง จ.ปทุมธานี
ปี พ.ศ.2546 โรงพยาบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี
กิจกรรมในสถานศึกษาระอุดมศึกษา
- สมาชิกสภานักศึกษา ตำแหน่งกรรมาธิการ
ฝ่ายติดตามผลงานกิจกรรมนักศึกษา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปี 2550
- สมาชิกสโมสรนักศึกษา ตำแหน่งประธานฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา
วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปี 2550
- เป็นตัวแทนสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตปทุมธานี
ภาควิชาศึกษาศาสตร์(เคมี)เข้าร่วมการแข่งขันทักษะวิชาการ
ณ จ.นครศรีธรรมราช ประจำปี 2546
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)